latest Post

อาการน่าเป็นห่วง นิ้งไม่ไหวแล้ว ต้องสอดท่อใกล้หัวใจ

อาการน่าเป็นห่วง นิ้งไม่ไหวแล้ว ต้องสอดท่อใกล้หัวใจ,อาการน่าเป็นห่วง นิ้งไม่ไหวแล้ว ต้องสอดท่อใกล้หัวใจ

อดีตนางเอกดัง นิ้ง กุลสตรี ศิริพงศ์ปรีดา วัย 46 ปี หลังลาวงการบันเทิง ไปเป็นแอร์โฮสเตสสายการบินดัง แต่งงานมีชีวิตคู่สุดแฮปปี้ ล่าสุด เจ้าตัวโพสต์ถึงอาการป่วยระหว่างทำการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณย์ ว่า ต้องทำการปลูกถ่าย Stemcell ซึ่งอาจจะใช้ของตนเองหรือน้อง หรืออาจจะต้องใช้ Stemcell ของผู้ที่นำมาบริจาคผ่านทางศูนย์บริจาคโลหิตสภากาชาดไทย หลังจากทำการเจาะเลือดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมา


โพสต์ดังกล่าว
หลังจากก่อนหน้านี้ เริ่มสังเกตพบรอยช้ำตามร่างกายหลายจุด เป็นสีเขียวอ่อนๆ โดยไม่ทราบสาเหตุ จึงเข้าพบแพทย์ เพื่อทำการรักษาอาการเบื้องต้นที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ที่ผ่านมา แพทย์เจาะเลือดไปตรวจแล้ว แต่ยังไม่พบสาเหตุของโรค จึงประสานขอย้ายมาที่โรงพยาบาลศิริราชฯ กระบวนการรักษา ต้องดำเนิน 3 คอร์ส ใช้เวลาดำเนินการ คอร์สละ 3 สัปดาห์


โดยต้องมีท่อเจาะติดกับเส้นเลือดใหญ่ที่ต้นแขน และต้องติดตัวท่อชิ้นนี้กลับบ้าน โดยต้องห้ามโดนน้ำไปตลอดช่วงที่ทำการรักษา และข้อสำคัญ คือ ต้องระวังการติดเชื้อในช่วงนี้ ซึ่งเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการรักษา ก่อนจะเข้ารับการปลูกถ่าย Stemcell ในช่วงการรักษาคอร์สที่ 3 ขณะนี้ยังวินิจฉัยไม่ได้ว่า อดีตนางเอก ป่วยด้วยโรคอะไร
สำหรับ นิ้ง-กุลสตรี ศิริพงษ์ปรีดา ได้อัพเดทอาการระหว่างที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ว่า บันทึกความทรงจำกุลสตรี (ep3) 05.30 น. คุณพยาบาลเจาะเลือดข้อพับข้างขวา ดูดเลือด 2 หลอด ไปเพาะเชื้อ และตรวจเกล็ดเลือด 08.20 น. คุณพยาบาลให้เกล็ดเลือดถุงที่ 5 เพราะเกล็ดเลือดตก 08.30 น. คุณผู้ช่วยพยาบาลพาไปเตรียมตัวทำหัตถการที่ห้องผ่าตัด โดยอาจารย์หมอประเสริฐ ท่านจะฉีดยาชาเฉพาะจุด และสอดท่อเข้าไปทางเส้นดำใหญ่ใต้ท้องแขนข้างซ้าย ไปจนถึงเส้นเลือดดำใกล้หัวใจ ความยาวประมาณ 20 เซนติเมตร
และจะมีท่อที่ยื่นออกมา 2 ท่อ เพื่อรับยาเคมีบำบัด 7 วัน ทำการล้างไขกระดูกในร่างกายออกหมด (กลัว แต่อาจารย์หมอท่านน่ารักมาก ทำให้สภาวะความกลัวลดลง โดยการพูดคุย ให้ข้อแนะนำที่ดี ขอบคุณมากนะคะ) 10.35 น. นอนรอผลย้อมกระดูก ดูเชื้อโรค เพราะทางบำรุงราษฎร์และ ศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ผลไม่ตรงกัน เลยไม่สามารถให้ยาเคมีบำบัดได้ 10.50 น. อาจารย์หมอเอกพันธ์เข้าเยี่ยม ท่านให้กำลังใจให้สู้ ร่างกายเป็นของร่างกาย แต่ใจเป็นของเรา ให้สู้ในแต่ละวันให้ผ่านไปให้ได้ (ขอบคุณมากนะคะ) 14.00 น. พยาบาลดูดเลือดไปตรวจ 2 หลอด ยาชาเริ่มหมด เริ่มเจ็บแผลมาก ทานยาแก้ปวด นอนพัก
มื่อวานเป็นอีกวันที่มีความสุขมาก รู้สึกเพลียแต่มีความสุขมาก ที่มีคนที่รักมาให้กำลังใจก่อนเริ่มขั้นตอนรับยาล้างไขกระดูกออกจากร่างกาย ตอนแรกจะกลับกันเร็วแต่ไปมา กลับกันดึก 555 ขอบคุณพี่ใหญ่แทบจะไม่ได้นอนพักผ่อนเลย ช่วยดูแล อาบน้ำเพราะตั้งแต่เข้าที่ศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ มือข้างขวาจะมีท่อต่อสาย และวันนี้ย้ายข้างไปเจาะเส้นเลือดใหญ่ท้องแขนข้างซ้าย ล้างเชอรี่ป้อนให้ทาน (ตอนเราร้องไห้ เพราะเมื่อให้ยา จะทานผลไม้เปลือกบางไม่ได้) คอยจับมือตลอดเวลาให้กำลังใจให้สู้


About TheeWay

TheeWay
Recommended Posts × +